น้ำคลอโรฟิลล์ หรือเครื่องดื่มที่มีสีเขียว ๆ ที่หลายคนได้บอกว่ามีสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่ช่วยล้างสารพิษในร่างกายไปจนถึงเป็นการป้องกันโรคมะเร็ง แท้จริงแล้วน้ำชนิดนี้มันดีจริงหรือไม่ มีประโยชน์ต่อร่างกายคนเราจริง ๆ หรือไม่
คลอโรฟิลล์ คือ อะไร ?
คลอโรฟิลล์ (chlorophyll) เป็นสารประกอบที่พบได้ในส่วนที่มีสีเขียวของพืช โดยพบมากที่ใบของพืชนอกจากนี้ยังพบได้ที่แบคทีเรียที่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ พบได้ในสาหร่ายเกือบทุกชนิด นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่เป็นโมเลกุลรับพลังงานจากแสง และนำพลังงานดังกล่าวไปใช้ในการสร้างพลังงานเคมีโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพื่อสร้างสารอินทรีย์ เช่น น้ำตาล และนำไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต คลอโรฟิลล์ อยู่ในโครงสร้างที่เรียกว่า เยื่อหุ้มไทลาคอยล์ ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มที่อยู่ภายใน คลอโรพลาสต์
ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์
1. เชื่อว่าช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
2. เชื่อว่ามีส่วนช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
3. ช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตา
4. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
5. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด แพ้อากาศ
6. ช่วยเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดแดงให้สมดุล
7. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
8. ช่วยกำจัดสารพิษภายในร่างกาย
9. มีส่วนช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ
10. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
11. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรน
12. ช่วยลดปัญหาการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตันหรือเส้นเลือดขอด
13. ช่วยลดปัญหากลิ่นตัวหรือกลิ่นที่เกิดจากอวัยวะภายในร่างกาย
14. ใช้เป็นยาดับกลิ่นปาก (เห็นผลน้อยมาก)
15. ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้
16. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
17. มีส่วนช่วยบรรเทาและรักษาโรคท้องผูก
18. ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
19. ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
20. ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ ช่วยทำความสะอาดบาดแผลให้สะอาดได้ดีกว่าสารชนิดอื่น
21. มีส่วนช่วยป้องกันโรคตับอักเสบและไตวาย
22. มีส่วนช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับ
23. มีฤทธิ์ในการต้านการติดเชื้อต่าง ๆ (แต่มีประสิทธิภาพน้อยมาก ๆ)
24. ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
25. ใช้รักษาแผลและช่วยการสมานบาดแผล ให้แผลหายไวกว่าปกติ
26. ช่วยดับกลิ่นเหม็นของแผล
27. ช่วยลดอาการเป็นพิษหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิดได้
ควรรู้ ก่อนทานอาหารเสริม ที่มี คลอโรฟิลล์ !
· สารคลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในพืชจะแบ่งออกเป็นประเภทที่ละลายในน้ำ และอีกประเภทที่ละลายในไขมัน ซึ่งในส่วนของประเภทที่ละลายในไขมันนั้นทางองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาไม่รับรองให้รับประทาน แต่ส่วนที่เป็นประเภทที่ละลายในน้ำนั้นสามารถรับประทานได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยกำหนดให้รับประทานได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะถ้าหากเกินกว่านั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
· การรับประทานสารคลอโรฟิลล์ในปริมาณที่มากเกินไปในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือในสีผสมอาหาร อาจจะทำให้สีของปัสสาวะหรืออุจจาระเปลี่ยนเป็นสีเขียว และอาจจะทำให้ท้องเสียได้แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีรายงานพบว่าเกิดการแพ้สารคลอโรฟิลล์
· ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดนั้น โดยหลักการคือสิ่งที่เราต้องรับประทานเสริมเมื่อร่างกายขาดสารอาหารประเภทนั้น แต่ถ้าร่างกายของเราไม่ได้ขาดสารอาหารอะไร คุณก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แค่รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็ถือว่าเพียงพอต่อร่างกายแล้ว เพราะถ้าหากร่างกายได้สารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินกว่าปกติ ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียหรือเป็นโทษต่อร่างกายได้ ดังนั้นถ้าในชีวิตประจำวันคุณรับประทานอาหารประเภทผักหรือผลไม้ที่มีสีเขียวอย่างเพียงพออยู่แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นที่ต้องรับประทานคลอโรฟิลล์เสริมอาหารแต่อย่างใด
· การรับประทานคลอโรฟิลล์เสริมอาหารนั้น ในผลงานวิจัยทางการแพทย์ทางด้านสารอาหารในต่างประเทศ ก็มีผลงานวิจัยออกมาทั้งที่เป็นด้านบวกและด้านลบ ก็พอจะคาดเดาได้ว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อย่างเดียวหากเรารับประทานแบบไม่ถูกต้องหรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้นก่อนการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคลอโรฟิลล์ คุณควรอ่านคำเตือนข้างกล่องก่อนรับประทานและเราก็ต้องรู้ว่าร่างกายของเราควรได้รับสารอาหารประเภทนี้หรือไม่
· ในเรื่องนี้นักวิชาการส่วนใหญ่ยังเห็นว่าการรับประทานอาหารเสริมคลอโรฟิลล์นั้นเป็นการสิ้นเปลือง และแนะนำว่าควรหันมารับประทานผักสีเขียวให้มากขึ้นเพราะเป็นแหล่งของคลอโรฟิลล์ จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าและไม่สิ้นเปลืองเงินมาก สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคลอโรฟิลล์ผง ใช้ชงกับน้ำดื่มหรือที่เรียกกันว่า น้ำคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีการอวดอ้างสรรพคุณไว้มากมาย ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณกันให้ดี เพราะประโยชน์หลายข้อยังขาดหลักฐานการสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ ซึ่งคลอโรฟิลล์เสริมอาหารที่อ้างว่าเป็นสารจากธรรมชาตินั้น ความจริงแล้วในกระบวนการผลิตคลอโรฟิลล์จะถูกสกัดและทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่น ๆ จนเป็นสารใหม่ขึ้นมา
.....................................