แดนดิไลออน เป็นวัชพืชที่ขึ้นได้ทั่วไปเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็กต้นสูงประมาณ 6-10 นิ้ว ขึ้นได้ตลอดปี แต่เป็นพืชเมืองหนาว พบได้ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ แต่ไม่พบในเมืองไทย ลำต้นของแดนดิไลออนสั้น มีใบออกจากโคนลำต้นเป็นกระจุก แต่ละใบเว้าเป็นแฉกแหลม มีดอกสีเหลือง เมื่อดอกร่วงจะกลายเป็นเมล็ดติดอยู่ที่ฐานดอกเป็นปุยสีขาวกลมๆ ที่จริงแดนดิไลออนเป็นพืชตระกูลใกล้เคียงกับมิลค์ ทริสเทิล จึงมีคุณสมบัติในการรักษาโรคใกล้เคียงกัน ส่วนที่ใช้ของแดนดิไลออน ราก, ลำต้น และใบ
แดนดิไลออนใช้ทำอะไร ?
แดนดิไลออนเป็นสมุนไพร ส่วนที่งอกขึ้นมาเหนือพื้นดินและรากใช้ทำยารักษา อาการไม่อยากอาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน ลมในกระเพาะอาหาร เป็นนิ่ว ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ เป็นผื่น และแผลฟกช้ำ นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาระบายในการกระตุ้นการขับปัสสาวะ ช่วยทำให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีขึ้น และยังใช้เป็น โทนเนอร์ปรับสภาพผิว ยาบำรุงเลือด และยาเจริญอาหาร แดนดิไลออนใช้เป็นผักสลัดในอาหาร ในซุป ในไวน์ และในน้ำชา นอกจากนี้รากแดนดิไลออนเผายังใช้เป็นส่วนผสมของกาแฟ
ประโยชน์ของแดนดิไลออน
- ใช้เป็นยาชับปัสสาวะ ลดอาการบวมโดยไม่ต้องห่วงว่าร่างกายจะขาดเกลือโปตัสเซียม
- ใช้เป็นยาลดความดันเลือด
- ใบเป็นแหล่งของเกลือโปตัสเซียม จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันหวัด และรักษาโรคติดเชื้อไวรัส
- ใช้เป็นยาเจริญอาหาร
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ใช้เป็นยาระบายอย่างอ่อน ทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น
- ช่วยย่อย ลดอาการท้องอืดเฟ้อ แน่นท้อง
- ช่วยลดอาการอักเสบ และช่วยทำให้การติดเชื้อหายเร็วกว่าปกติ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้แดนดิไลออน
ควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:
· ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
· อยู่ในระหว่างใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
· แพ้สารบางอย่างในแดนดิไลออน หรือยาตัวอื่น หรือสมุนไพรอื่น
· มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
· มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์